นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยผู้โดยสารที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลบัตรที่ใช้จ่าย เพื่อเชื่อมโยงกับระบบกลางสำหรับบริหารจัดการรายได้ ซึ่งในปัจจุบันสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
หรือ DGA กำลังพัฒนาระบบ ศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ซึ่งจะทำหน้าที่เชื่อมข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการรถไฟฟ้าและสถาบันการเงินผู้ให้บริการบัตร (Acquirer)
เงื่อนไขรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
-ประชาชนที่จะใช้สิทธิค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท จะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน
และข้อมูลบัตรที่จะใช้จ่าย โดยคาดว่าจะให้ประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิตามนโยบายดังกล่าว เปิดให้เริ่มลงทะเบียนได้ประมาณเดือน ส.ค. 2568
รถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ใช้ยังไง ใครได้บ้าง?
-ผู้โดยสารที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และเดินทางด้วยบัตรโดยสาร 2 ประเภท ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ ประกอบด้วย
-บัตร Europay Mastercard and Visa (EMV) Contactless Card
-บัตรเติมเงินประเภทบัตรผ่านระบบบัญชีบัตร (Account Based Ticketing system: ABT)
เช่น บัตร Rabbit แบบ ABT หรือการลงทะเบียนยืนยันด้วยหมายเลขบัตรประชาชนคนไทย
โดยในปีแรกอาจต้องใช้บัตร 2 ใบเดินทาง เนื่องจากยังไม่มีการรวมระบบทั้งหมด แม้ต้องสลับบัตร แต่ค่าโดยสารรวมไม่เกิน 20 บาทต่อเที่ยว
-บัตร EMV ใช้ได้กับ 6 สาย : สีแดง, ARL, สีน้ำเงิน, สีม่วง, สีชมพู, สีเหลือง
-บัตร Rabbit ใช้ได้กับ 4 สาย : สีเขียว, สีทอง, สีชมพู, สีเหลือง
ทั้งนี้ หากผู้โดยสารไม่มีบัตร EMV หรือบัตร Rabbit แบบ ABT หรือบัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐไว้
จะต้องชำระค่าโดยสารในอัตราค่าโดยสารราคาปกติ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่สามารถใช้สิทธิค่าโดยสารตามนโยบายดังกล่าวได้
