กลายเป็นประเด็นที่หลายๆ คนให้ความสนใจ สำหรับการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ โดยวันนี้บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
พร้อมด้วยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายเผด็จ หริ่งรอด ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ร่วมชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ได้มีหน่วยงานทั้งหมด 4 ฝ่าย ประกอบด้วย อัยการ ฝ่ายปกครอง หมอ และพนักงานสอบสวน รวมถึงครอบครัวที่มี แม่ ภรรยา และน้องสาว ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมไปถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้
เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ โดยการใช้ผ้าขนหนูความยาว 30-40 ซม. ผูกกับลูกกรงประตู ซึ่งผ้าอยู่ในระดับหน้าอก และตายด้วยท่านั่งหย่อนก้น เหยียดขาตรง ซึ่งทางเราก็มีกล้องวงจรปิด
บันทึกภาพทางเดินที่ทำให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดเข้าออกในห้องขังของผู้กำกับโจ้ มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ที่นำยาเข้าไปให้ตามเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้กำกับโจ้ ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตลงแล้ว
ส่วนจะเป็นการเสียชีวิตก่อนผูกคอ หรือผูกคอก่อนเสียชีวิตนั้น ก็จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางเราจะยังไม่ตัดประเด็นเรื่องที่ผู้อื่นทำให้ตาย ส่วนในเรื่องของการชันสูตรพลิกศพรวมไปถึงการวินิจฉัย ให้เป็นความเห็นของทางแพทย์
ซึ่งทางครอบครัวอยากให้นำศพไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อรอพิสูจน์ข้อเท็จจริง ก่อนที่จะส่งศพคืนให้ญาติ ส่วนญาติที่ติดใจในเรื่องของการเสียชีวิตครั้งนี้ แล้วจะเก็บศพไว้จนกว่าจะพิสูจน์ความจริงก็เป็นสิทธิของทางญาติ
โดยทางคณะทำงานก็จะพยายามทำให้โปร่งใสที่สุด เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยคณะกรรมการจะมีการตรวจพยานหลักฐานทั้งในส่วนเรื่อง DNA บนผ้า รวมถึงบนวัตถุพยานทุกอย่าง
ด้าน นายสหการณ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนกับผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าภายในเรือนจำมีกล้องวงจรปิดบันทึทุกจุด ยกเว้นภายในห้องนอนที่ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชนที่เราต้องดูแล
สำหรับมาตรการของต้องห้ามที่จะนำไปสู่การก่อเหตุ มีความเข้มงวดในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผ้าที่ผู้เสียชีวิตใช้ก่อเหตุเป็นการอนุโลมของเรือนจำให้กับผู้ต้องขังทุกคน เนื่องจากช่วงนี้มีอากาศร้อนจึงให้ไว้ซับเหงื่อ
ซึ่งในขณะที่ผู้กำกับโจ้ก่อเหตุเป็นช่วงเวลานอน ที่อยู่ในห้องปิดทึบ และอยู่เพียงคนเดียว จึงไม่มีใครเห็น โดยเหตุผลที่ต้องอยู่ห้องขังแยกเพียงผู้เดียว เนื่องจากผู้ต้องขังร้องขอเอง ไม่ได้มีการจับขังเดี่ยว เพราะวิตกังวลกลัวคนทำร้าย และทำให้ตัวผู้ต้องขังรู้สึกปลอดภัยมากกว่า
ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็มีมาตรการดูแลผู้ป่วยโดยการให้ยาตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามอาการ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเราก็ได้มีการประเมินไว้แล้ว โดยไม่พบว่าทางตัวผู้กำกับโจ้จะก่อเหตุ
ขอบคุณข้อมูล: Amarin