ที่เงียบๆไม่ได้หายไปไหนแต่เป็นเพราะต้องใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับ นางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” หลังออกมาเปิดใจว่าก่อนหน้านี้ได้อยู่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนแล้ว
หลังไปตรวจเจอว่าตัวเองเป็นภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งทำให้ต้องเลื่อนแพลนมีลูกออกไปก่อนด้วย เอาเป็นว่าจะว่ายังไงบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่า
คิมเบอร์ลี่ : เดือนที่แล้วคิมไปตรวจมาแล้วบังเอิญไปเจอโรคอะไรบางอย่าง ที่มันแบบยากมาก ต้องใช้เวลารักษาก็คือเดือนที่แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลทั้งเดือนเลยค่ะมันก็ค่อนข้างที่จะเครียดแต่ว่าตอนนี้ก็ผ่านมันมาแล้ว ตอนนี้ก็รักษาอยู่ค่ะ ต้องหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น กินอาหารที่ไม่ทำให้ร่างกายอักเสบขึ้นมา ต้องทำอาหารกินเอง ออกกำลังกาย
ตรวจเจออะไรที่ทำให้ตัวเองกังวลหนักขนาดนี้ ?
คิมเบอร์ลี่ : ไปตรวจมาเจอว่าภูมิคุ้มกันของเราบกพร่อง แล้วไปทำให้อีกหลายๆจุดมีการอักเสบขึ้นมา แต่ไม่ใช่โรคแพ้ภูมิตัวเอง แต่ว่าเป็นโรคที่เกี่ยวกับแพ้ภูมิ แนวทางการรักษาคือต้องไปฉีดยาทุกอาทิตย์ คุณหมอบอกว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นโรคนี้ก็คือเกิดจากการเป็นภูมิแพ้แล้วก็มาเป็นลองโควิด แต่คิมเป็นโควิดครั้งเดียวเองเลยไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น เอาจริงๆตอนนี้คิมก็ยังไม่เข้าใจ 100% แต่ว่าวิธีการรักษามันก็มี ซึ่งก็ต้องดูว่ามันจะได้ผลไหม
โรคที่เป็นอยู่ทางการแพทย์ถือว่าร้ายแรงไหม ?
คิมเบอร์ลี่ : มันก็ร้ายแรง เพราะว่าตอนนั้นที่คุณหมอเขาวินิจฉัยเขาแทบจะวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเลยด้วยซ้ำ แล้วเราก็เครียดมากแต่พอตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจแล้วก็ไม่ใช่
พอรู้ว่ามีแนวทางการรักษาได้ทำให้เราสบายใจขึ้นไหม ?
คิมเบอร์ลี่ : สบายใจขึ้นค่ะ แล้วก็ต้องควบคู่กับการดูแลตัวเองด้วย อย่างเรื่องอาหารการกิน ปกติติดของหวานมาก ตอนนี้ก็กินได้อยู่แต่ว่าไม่ได้เยอะเท่ากับเมื่อก่อน แล้วก็พยายามศึกษาอะไรที่มันทำให้ภูมิต้านทานตัวเองแข็งแรง ทำอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบก็จะมีเรื่องของสมุนไพรเข้ามาช่วย
จุดไหนที่ทำให้ตอนนั้นเราต้องไปตรวจร่างกายแล้วถึงรู้ว่าเป็นโรคนี้ ?
คิมเบอร์ลี่ : ความที่คิมคิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้มาตลอด จมูกตัน ตาบวม พอไปตรวจก็เลยทำเอ็มอาร์ไอ ปรากฏว่าเจอต่อมน้ำเหลืองอักเสบถึงได้รู้ว่าเราไม่ได้เป็นภูมิแพ้อย่างเดียวแล้ว แต่มันคือร่างกายอักเสบ
โรคที่เป็นอยู่มีผลในเรื่องของการมีน้องด้วยไหม ?
คิมเบอร์ลี่ : มีค่ะ คิมก็ต้องขยับแพลนการมีน้องออกไป คือต้องดูแลตัวเองก่อน ส่วนพี่หมากเขาก็อยู่ข้างเราตลอด
ต้องเบรคงานเลยไหม ?
คิมเบอร์ลี่ : ไม่นะคะ คุณหมอไม่ได้ห้ามอะไรเลย บอกว่าให้ใช้ชีวิตปกติได้ แต่ว่าก็ต้องมาฉีดยาทุกอาทิตย์ ส่วนว่าทำไมดูสดใสทั้งที่มีเรื่องให้เครียดคิมไม่ค่อยเครียดนานค่ะ เวลาเครียดก็เครียดที่บ้าน แล้วก็ลืมแล้ว อีกวันตื่นมาก็ปกติค่ะ
เอาเป็นว่ายังไงก็ขอส่งกำลังใจให้คิมเบอร์ลี่ด้วยนะคะ และหวังว่าสุขภาพจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้โดยเร็วด้วย
ขอบคุณข้อมูล : @kimmy_kimberley