จอย รินลณี เปิดใจถึงบท แม่แฟง ความรู้สึกหลังร่วมงาน โบว์ เมลดา

มาแรงจริงๆ ในตอนนี้ สำหรับ ‘คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านไม่ใช่หงส์’ ที่กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 ตอนนี้ โดยหนึ่งในนักแสดงนำก็คือ จอย รินลณี ศรีเพ็ญ ในบทบาท แม่แฟง เจ้าของโรงคณิกา ได้เปิดใจถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า

แม่แฟง เป็นบทที่แปลกใหม่มากใช่ไหม?

“ใช่ค่ะ เอาจริงๆ คือไม่เคยเล่น ต้องบอกว่าละครที่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับคณิกามันน้อยมากจริงๆ เพราะฉะนั้นมันน้อยมากที่จะได้เล่นและบทที่เป็นนางโลมไม่เคยเล่นมาก่อน”

ตอนอ่านบทเป็นยังไงบ้าง?

“จะบอกว่าชอบตั้งแต่อ่านบท เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกมาก มันเป็นเรื่องที่ดี ทันสมัย เป็นเรื่องที่ดูไม่มีกฎเกณฑ์อะไร ดูเหมือนมันมีความสนุก เรารู้สึกเราสนุกตั้งแต่อ่านบทเราก็เลยอยากเล่นเลย แล้วก็รู้สึกว่าเราก็จะมองภาพว่าตัวละครนี้ต้องมีอะไรให้เราเล่นได้เยอะ

ตัวแม่แฟงเขาก็จะมีคาแรกเตอร์ให้มีความรู้สึกว่าเขามีความเป็นมนุษย์สูงมาก คือเขาเป็นเหมือนสีเทา บางครั้งเราจะเห็นมุมที่เขาดำไปเลย แต่พอดุไปอีกสักพักนึง เดี๋ยวเขาก็จะมีมุมที่อ่อนโยน มุมที่มีความน่ารัก เดี๋ยวพอมีลูกสาวเข้ามาทุกคนก็จะได้เห็นอีกมิติมุมหนึ่งในตัวบทแม่แฟงไปเรื่อยๆ เขาจะมีพัฒนาการของตัวละคร ไปเรื่อยๆ”

เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงด้วย ได้อ่านประวัติมาแล้วด้วยใช่ไหม?

“เอาเป็นว่าเป็นเรื่องเล่าดีกว่า ไม่ได้อ่านแบบจริงจัง แต่ว่าเราเคยได้ยินคนพูดถึงเรื่องราวของแม่แฟงมาพอสมควร แต่เอาจริงๆ เราไม่มีภาพว่าจะต้องเป็นยังไง แต่ว่าเราก็ดูจากบท อาจจะมีตัวตนจริงๆ แต่เราไม่ได้เขียนเรื่องแม่แฟงจริง เพราะฉะนั้นมันก็คือเป็นละครที่แต่งขึ้นมา ก็เลยคิดว่าเล่นตามบทละครว่าจะมีคาแรกเตอร์ประมาณไหน”

เราตีความบทแม่แฟงยังไงบ้าง?

“อย่างแรกเรารู้สึกว่าเขาต้องมีความเป็นผู้หญิงที่เด็ดขาด แล้วก็โหด เพราะด้วยคาแรกเตอร์ของแม่แฟงที่ทำงานแบบนี้ คิดง่ายๆ เลยถ้าเราเป็นเจ้าของโรงคณิกา ผู้หญิงเป็น 10-20 คนถ้าเราซอฟต์ เราไม่มีทางคุมผู้หญิงได้ เราต้องยอมรับผู้หญิงอยู่รวมกันเอาแค่ผู้หญิงปกติ มันก็ไม่ได้ง่ายแล้ว ไหนจะเจอลูกค้าที่เมาเหล้า เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นคนที่โหดแน่ๆ

จะต้องเป็นคนที่เด็ดขาดจะต้องเป็นคนที่ให้ดูมีอำนาจ เพราะว่าโดยบทถ้าเราอ่าน คนที่พูดถึงแม่แฟงในบทละครเองก็จะพูดว่าแม่แฟงโหดนะ แต่คงฆ่าคนไม่ได้หรอก หรืออะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราก็เล่นตามบทละคร

และอย่างที่บอกว่าพอมีลูกสาว ก็จะเห็นว่าในเรื่องแม่แฟงเป็นคนชอบทำบุญมาก แปลว่าลึกๆ แล้วเขาเป็นคนดี เขาถึงชอบทำบุญ แต่มันก็มีจุดบางอย่างที่เขาจำเป็นที่จะต้องมาเปิดโรงคณิกา ซึ่งตอนท้ายของเรื่องก็จะไม่มีเฉลยที่มาที่ไปว่าทำไมถึงมาเปิดโรงคณิกา”

ลูกสาวแต่ละคนเป็นยังไงบ้างเริ่มจากโบว์ เมลดา ก่อน?

“โบว์เป็นคนไร้กฎเกณฑ์มาก คือเราอยู่ในกองเราเห็นความเป็นธรรมชาติของโบว์ ซึ่งทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นยังไง เขามีความเป็นธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าโบว์เขาเป็นคนน่ารักมากๆ เป็นคนที่เล่นอะไรแล้วก็จะรู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูจังเลย แต่เขาก็จะมีความเหนือความคาดหมายของเราไปอีก คือเราพอจะรู้ว่าคาแรกเตอร์เขาเป็นยังไง แต่พอเขาทำไปมันเกินสิ่งที่เราคิดไปอีก

เหมือนฉากประมูล เราก็ไม่คิดจริงๆ ว่าเขาทำสิ่งนั้น ว่าเขาจะมาเต้นทเวิร์กให้เราดู คือตอนซ้อมบล็อกกิ้ง ป้าแจ๋วก็บอกให้โบว์มาทำบีทบ็อกซ์ ก็มีข้อมูลว่าเขามาทำบีทบ็อกซ์แค่นั้น แต่พอมาถึงคือเขาเต้น แล้วมันไปเบอร์นี้เลย เลยรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ละครเรื่องนี้มันมีสีสัน แล้วมันน่ารักมาก เราอ่านบทว่าน่ารักแล้ว แต่เขาทำให้มันยิ่งน่ารักบวกๆ ขึ้นไปอีก”

เราต้องเจอเขาทุกฉากมีหลุดบ้างไหม?

“หลุดขำเลยอาจจะไม่มี แต่อาจจะยิ้มแค่วันที่เปิดโรงแค่นั้นเอง คือเรานึกภาพไม่ออกว่านางเอกจะทำสิ่งนี้ลงมา แต่เราก็ไม่ถึงกับหลุดขำ แค่ยิ้ม ซึ่งในธรรมชาติความเป็นมนุษย์ ถ้าเห็นคนทำแบบนี้ก็เป็นบ้าละ แต่ในความรู้สึกของแม่แฟงคือทำแบบนี้มันต้องไม่มีใครประมูล มันต้องเสียราคาแน่เลย มันต้องหยุด มันก็เลยมีความโกรธ โมโห พอเข้าฉากจริงๆ ไม่เคยหลุดขำ เพราะเราเองก็ต้องคีพคาแรกเตอร์ของตัวละครเราอยู่แล้ว”

แล้วลูกๆ คนอื่นล่ะแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา?

“ด้วยความที่คาแรกเตอร์เขาไม่เหมือนกัน แน๊ตตี้ นาตาชา ในเรื่องเขาจะเป็นตัวท็อป ซึ่งเขาก็ดูเป็นคนแบบนั้นในชีวิตจริง เขาพอจะมีจริตของความเป็นผู้หญิง มีความตลก และเขาเป็นคนน่ารัก หรือน้ำหนึ่ง สุทธิเดชานัย จะเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด นิ่งๆ

เขาก็จะเป็นผู้หญิงที่มีคาแรกเตอร์ที่เราชอบคุยกับเขา อย่างเรนเดียร์ ปฤสยา อยู่กับโบว์เขาก็จะดูสดใส คือทุกคนค่อนข้างที่จะมีความเป็นตัวละครอยู่ในนั้น แต่ละคนคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน”

ใครที่เล่นยากที่สุดเวลาเข้าฉากด้วยกัน?

“ก็ต้องเป็นโบว์อยู่แล้ว เพราะคนอื่นเราพอดูเข้าใจว่าจะประมาณไหน แต่โบว์ก็คือเราไม่รู้ แล้วบางทีโบว์ก็พูดไปเรื่อย มันไม่มีในบท มันก็เหมือนอาจจะอยู่ในช่วงที่รักกัน แล้วอยู่ดีๆ มากอดเรา คือมันต้องเล่นไปตามเขา ซึ่งยังคงคีพคาแรกเตอร์ของเราอยู่ คือจะเอ็นดูก็เอ็นดู บางทีก็มีความหมั่นไส้ คือในเรื่องมันต้องเล่นไปตามเขา พอหมดบทพูดแล้วเขาก็เล่นอิมโพรไวส์ของเขาไปแบบเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ต้องตามนั้น”

เห็นกระแสแล้วเป็นยังไงบ้าง?

“ดีใจแทนป้าแจ๋วมากเลย รู้สึกว่าทุกคนตั้งใจมากๆ ป้าแจ๋วตั้งใจมาก นักแสดงทุกคนตั้งใจ แล้วรู้สึกว่าเวลาที่ผลงานออกมาแล้วกระแสมันดี มันก็เป็นกำลังใจให้กับคนทำงาน ก็ดีใจแทนป้าแจ๋ว แล้วก็ทีมงานมาก”

ตัวละครดูมีอะไรมาแทบจะทุกอาทิตย์?

“คือเขาให้ความสำคัญกับทุกตัวละคร เพราะก็จะเป็นเรื่องของแต่ละคน มันเป็นละครที่ให้ความสำคัญกับทุกตัวละคร จอยว่ามันถึงสนุก เพราะว่ามันมีเรื่องราวขับเคลื่อน คือถ้าจะมีพระเอก-นางเอกไปตลอดจอยว่าเรื่องมันก็จะไม่หลากหลาย แต่อันนี้ด้วยความที่มันเป็นหลากหลายชีวิตคน เพราะฉะนั้นก็จะมีหลากหลายมิติของเรื่องราว”

ขอบคุณข้อมูล: joy_rinlanee