เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวมากฝีมือที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้า คุ้นตากันดี สำหรับ “พิม พิมพ์พรรณ” เพราะมีผลงานการแสดงเยอะมากและผ่านมาหมดแล้วทุกบทบาท ล่าสุด ก็ได้มาร่วมพูดคุยในรายการ คุยแซ่บ Show ถึงการผันตัวมาเป็นแม่ค้าหลังเจอวิกฤติงานละครหด
พร้อมกับเปิดเผยเรื่องเศร้าอย่างการตัดมดลูกจนไม่สามารถมีลูกได้แล้ว เอาเป็นว่าจะว่ายังไงบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่า
เห็นว่าปีที่แล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่มันเกิดขึ้น ?
พิม : ใช่ๆ เกี่ยวกับมดลูก คือมดลูกมันมีซีสต์อยู่นานแล้ว คุณหมอบอกว่าต้องกินยาควบคุม ก็เป็นฮอร์โมนอะไรแบบนี้เพื่อไม่ให้มันโตขึ้น แล้วทีนี้มันอ้วน พอออกกล้องแล้วมันทำงานยาก ก็เลยขอคุณหมอหยุดยา แล้วไปเช็คอัพทุก 6 เดือนแต่พอผ่านไป 6 เดือน มันโตไวมาก โตไวขนาดแบบมดลูกมันบิดตัวจนหมอบอกตัดทิ้งเถอะ คือมันปวดท้องหนักทุกครั้งแต่เวลาที่เราเทคฮอร์โมนมันจะไม่มีประจำเดือน มันเลยไม่มีการปวดท้อง คุณหมอเลยส่งไป MRI เพราะตรวจเลือดแล้วมันมีเชื้อมะเร็งอยู่นิดหน่อย ซึ่งมันก็เสี่ยงมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นคอนเฟิร์มว่าเป็นมะเร็ง แค่พบว่ามันมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้
ณ ปัจจุบันคือตัดออกไปแล้ว ?
พิม : ตัดไปแล้วทั้งยวง ยกเว้นรังไข่ไว้ปล่อยฮอร์โมน เราจะได้ไม่ต้องเทคฮอร์โมน
แล้วผลต่อสุขภาพเราตอนนี้ ?
พิม : ไม่มีเลย เพราะว่าเราตัดมดลูกกับปีกมดลูก แต่ว่าเรายังเหลือรังไข่ที่ปล่อยฮอร์โมน คือคนที่ไม่มีรังไข่ เขาจะต้องเทกแล้วจะทำให้แก่ก่อนวัย แต่ว่าพิมยังมีรังไข่ที่ปล่อยฮอร์โมน แล้วตัดมดลูกไปมันก็ลดความเสี่ยงที่เป็นมะเร็ง แต่ตอนนี้ก็ต้องไปเช็คร่างกายทุกเดือน แล้วก็เทคฮอร์โมน 10 เดือน ให้มันคุมอยู่ก็ยังอ้วนๆหน่อย
แล้วเหตุผลที่ทำให้เราตัดมดลูกจริงๆ คือค่ามะเร็งไหม?
พิม : คือค่ามะเร็งมันขึ้นตั้งแต่ก่อนเจอซีสแล้วแต่ว่ามันยังไม่เยอะมาก แต่ตอนหลังมันก็ค่อยๆขึ้น จนหมอบอกว่าไป MRI ดูแล้วพอออกมาคุณหมอคอนเฟิร์มว่าตัดเลย
จริงๆ พิมอยากมีลูกถูกต้องไหม?
พิม : อยากมีมาก คือเราไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เราก็อยากมีครอบครัวที่มีสามีที่น่ารัก มีลูก เราคิดอย่างนั้น แต่ว่าพอมีแฟนก็คิดกับเขาเรื่อยๆมาก็พอจะเดาได้ว่าเขาอาจจะไม่พร้อมที่จะมีลูก ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้บอกตรงๆ ว่าลูก 1 คนต้องใช้เงินเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เราอายุ40 กว่า จะเหนื่อยไหม เราอยู่ด้วยความเข้าใจกัน มันมีความสุขมากๆ อยู่แล้ว
พอหมอบอกว่าเราตัดมดลูกทิ้ง เท่ากับเราไม่มีโอกาสที่จะมีลูกอีกแล้ว ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง ?
พิม : แอบร้องไห้ไม่ให้ใครเห็น
ที่ร้องไห้เพราะมันมีความฝันด้วยไหม ?
พิม : ใช่ เราคิดว่าเขาเป็นพ่อที่คุณภาพ และเราก็เป็นแม่ที่คุณภาพ มันเสียดาย
พอเราร้องไห้กับเรื่องนี้ แฟนเรารับรู้ไหมว่าเราเสียใจกับเรื่องนี้ ?
พิม : ก็รู้ เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า เดี๋ยวเราจะเศร้าไป เพราะมันเป็นไปไม่ได้แล้ว มันเปลี่ยนใจเขาไม่ได้แล้ว เขาไม่อยากให้เราไปจมกับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว
ทำไมวันนี้ดูพิมเศร้าจัง ?
พิม : ใช่ไหม มันอาจจะมีเรื่องที่เรากังวล ตอนนี้มันเลยเศร้า แต่ถามว่ามันจำเป็นต้องคิดมากอะไรขนาดนั้นไหม มันไม่จำเป็นเพราะเรามีทุกอย่างที่เราวางแผนไว้ แต่อาจจะเป็นจังหวะที่เราอาจจะน้อยใจ ทั้งที่เรามั่นใจว่าเราก็เป็นนักแสดงมืออาชีพคนนึงแต่มันก็เข้าใจ
ทางเราก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับ คุณพิม ด้วยนะคะ เชื่อว่าความรักความเข้าใจจากแฟนและคนรอบข้างจะทำให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้แน่นอน
ขอบคุณข้อมูล : รายการคุยแซ่บ Show