ย้อนชีวิตวัยเด็ก ใหม่ พัชรี หมอลำสาวคนดัง จนสุดในหมู่บ้าน

เรียกว่าเป็นนักร้องสาวอารมณ์ดีที่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเองจนทำให้ ใหม่ พัชรี โด่งดังเป็นพลุแตกมีงานเดินสายร้องเพลงเข้ามารัวๆ แถมยังทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของใหม่ดีขึ้นด้วย ล่าสุด ใหม่ ได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการคุยแซ่บ Show พร้อมพูดถึงประเด็นกระแสที่ถูกมองว่าเป็นหมอลำหยาบคาย

ภูมิใจฉายาบียอนเซ่อีสาน?

ดีใจค่ะ เอาจริงๆ ก็ต้องมีสักอย่างที่ทำให้คนรู้จักเราเป็นภาพจำ ก็ดีใจและภูมิใจมากๆ วันนั้นได้มีโอกาสไปร่วมงานกับพี่ก้อง ห้วยไร่

งานเฟสติวัลพี่ก้อง ตอนแรกไม่รู้เรื่อง เพราะคุณเบลล์แฟนพี่ก้องทักมาคุยกับผู้จัดการ เขาไม่ให้บอกเรา แอบเซอร์ไพรส์

เราคุยกับผู้จัดการว่าถ้าเราไม่ได้ไป เราไปเที่ยวกันนะ พอเขาบอกว่าเราได้ไปก็ดีใจมาก แอบตื่นเต้น

ตอนแรกไม่กล้าไป กลัวคนไม่รู้จัก?

ใช่ เพราะเราคิดว่าเราเป็นแค่หมอลำซิ่ง ดังแค่นี้เอง กลัวว่างานใหญ่ระดับนี้ ระดับประเทศ ไปแล้วคนจะรู้จักเรามั้ย

ก็เลยแอบทักพี่ก้องไปว่าหนูแอบกังวลว่าหนูไปงานจะสมงานพี่มั้ย แกบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล ให้เป็นตัวของตัวเอง ทำให้เต็มที่ ผลออกมายังไงก็ดีที่สุดแล้ว

คาแรกเตอร์ใหม่ชัดเจน ทุกคนเห็นแล้วจำ รู้มั้ยคาแรกเตอร์ชัดมา?

รู้ตัว ตอนแรกไม่กล้าขายแบบนี้ แล้วมาคุยกับผู้จัดการ เขาบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนสวย อย่าขายสวย ก็เออ มันก็ใช่ คาแรกเตอร์ที่คนชอบมากๆ

จะเป็นการดื่มกับแฟนเพลง ด่าแฟนเพลง (หัวเราะ) ตอนแรกไม่ใช่คาแรกเตอร์แบบนี้ พอด่าแฟนเพลงมันจะเป็นการเล่นมากกว่า

มีคนเข้าใจและไม่เข้าใจ หาว่าเราหยาบคาย ทั้งสองทาง แต่เอาจริงๆ เราห้ามความคิดคนไม่ได้ เราเอาคนหน้าเวทีก่อน

สคริปต์เราทุกวันจะไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนมาด่าเรา มาว่าเรา จะเห็นแค่ไม่กี่วิ ก็จะตัดสินเราแล้ว

ที่โดนเยอะมากคือหมอลำขี้เมา หยาบคาย ก้าวร้าว เสียใจมั้ย?

ไม่ค่ะ เป็นอย่างที่ทุกคนพูดเลย (หัวเราะ) เรามาสายนี้ จะเดินออกไปสวยๆ ถ้าเราไปคอนเสิร์ต เขาเอามาให้เรากิน แก้วละ 3-4

หมื่น เคยได้เป็นแสนก็มี เราก็ต้องเอา ปกติเราซื้อกินอยู่แล้ว อันนี้คนจ้างเรากิน ทำไมจะไม่เอาล่ะคะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นงานโรงเรียนจะสุภาพ

ไม่มีการดื่ม รู้จักกาลเทศะว่าเป็นยังไง แต่ภาพลักษณ์ที่ออกไปจะเป็นแบบนี้มากกว่า ถ้าเราโพสต์นิ่มๆ ธรรมดา คนไม่ชอบ ชอบให้เราด่า(หัวเราะ)

ทำไมด่าคนดู เขาแกล้งเรา?

เราเลือกด้วยนะคะ ไม่ใช่เอะอะก็ด่า เราเลือกว่าสมควรมั้ย ต้องเล่นมั้ย หรือบางครั้งต้องหยอกมั้ย ดูสถานการณ์ว่ามันไปได้หรือเปล่า

บางทีคนดูก็ด่าเราเหมือนกัน ล่าสุดเป็นคำหยาบคายเลยค่ะ มีทั้งแบบสัตว์หลายๆ ประเภทมารวมกัน เยอะมาก ยืนด่าเราหน้าเวที

คือด่าจนเรารู้สึกว่ามันไม่โอเค เขาด่าจริงๆ มันเหมือนปนๆ กันไปว่าเมาหรือเปล่า วันนั้นเขาก็ด่าเยอะ

แล้วทำยังไง?

ด่ารอบแรกไม่เป็นไร ด่าไม่หยุดจนเรารู้สึกว่าไม่โอเค คุณแม่เจ้าภาพก็ไปห้ามเขาว่าอย่าด่าน้องนะ แกก็ผลักแม่เจ้าภาพเหมือนไม่ให้เกียรติด้วย

เราก็เลยบอกว่าทุกคนหยุดก่อน ถ้าคนนี้ไม่ออกไปจากหน้าเวทีฉันจะไม่เล่น

หน้าเวทีคนตีกันมั้ย?

เกือบทุกงาน ก็จะหยุดก่อน บอกว่าอย่าตีกันนะ มันเจ็บ บางครั้งก็รำใส่ เป็นจังได๋น้ออ้าย คือตีกันให้คนตื่น ทุกคนก็จะหยุด

มีบางครั้งถ้าตีกันก็ตีไปโลด ฉันจะกินเบียร์รอ แล้วแต่สถานการณ์ บางครั้งก็มีโดนลวนลามบ้าง ตอนนั้นอยู่วงประถมบันเทิงศิลป์ วงเก่า

เวทีจะเตี้ยหน่อย เราไปจับมือ เขามึนเมานิดนึง ดึงมือเราไปแล้วกำหน้าอก ตอนนั้นสั่งให้หยุดก่อน เราเสียใจ เด็กด้วย ไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง

ก็ร้องไห้มาหลังเวที ทางผู้ใหญ่ก็รู้จักคนนั้นก็เรียกมาขอโทษ หลังจากนั้นก็ตั้งเกราะตัวเอง ต้องสู้แล้ว

ตอนหลังด่าเลยค่ะ เรามีไมค์ยังไงต้องดังกว่าเขาอยู่แล้ว ให้เขาหยุดเลย

ชีวิตวัยเด็กลำบากมาก?

จนที่สุดเลยก็ว่าได้ ทีวีต้องไปดูบ้านคนอื่น พัดลมก็ไม่มี อาหารการกิน หรือการเป็นอยู่ ต้องกินตามท้องไร่ท้องนา

พี่น้อง 4 คนเป็นคนสุดท้องค่ะ เรียนถึงม.3 มีแววร้องเพลง เพราะงานโรงเรียนก็ร้องเพลงมาตลอด เพราะคุณแม่เป็นหมอลำเก่า

เราก็ได้แววมาด้วย เวลามีงาน มีกิจกรรม ตัวเองก็กล้าแสดงออกนิดนึงก็ติดมาจากตรงนั้นเลย

ไม่มีเงินมากๆ มีแรงอยากให้ออกไปจากตรงนี้?

ใช่ค่ะ อดีตทำให้เราลุกขึ้นสู้ และเราจะไม่จมอยู่กับอดีต ทำให้เรามีแรงผลักดันค่ะ

พอจนมากๆ จนที่สุดในหมู่บ้าน พอลุกมาทำอะไรที่เฉิดฉายโดนบูลลี่มั้ย?

ก็มีค่ะ แต่เราไม่ได้แคร์

ไม่ได้เป็นนักร้องนำเลยนะครั้งแรกที่เข้าวงการทำอะไร?

ตอนนั้นคุณพ่อไหมไทย หัวใจศิลป์ แกตั้งวงพอดี เหมือนเราเป็นญาติห่างๆ แก แกก็เดินสายหาแดนเซอร์ หานักร้อง

หาหมอลำที่จะไปร่วมวงกับแก ทีนี้เราเสียคุณพ่อไป คุณแม่เลยบอกว่าไม่ต้องเรียนต่อหรอก แม่ไม่มีเงินส่งแล้ว

แกก็เลยบอกว่าไปเรียนกับพ่อไหมไทยไหม ไปหาเงินมาส่งทางบ้าน ก็เลยไม่ได้เรียนต่อ ไปอยู่กับพ่อไหมไทย เรียนร้อง

เรียนรำกับแก แกก็เอาไปฝึกฝน ปั้นจนให้ได้ดีค่ะ เข้าไปครั้งแรกเต้นก่อน แล้วบอกแกว่าหนูร้องเพลงได้นะ หนูเสียงดี ก็เลยไปร้องเพลง

พอนางเอกขาด เราก็เป็นนางเอกให้ นักร้องขาดเราก็ไปเป็นนักร้องให้ แดนเซอร์ขาดก็ไปเป็นแดนเซอร์ให้

ค่อยๆ กระเถิบ ไม่เหมือนยุคนี้ กว่าจะถึงตรงนี้ได้คุณครูที่ดีสอนทุกด้าน ระหว่างทางมีท้อมั้ย อยากเป็นนักร้องแต่ไปไม่ถึงจุดนั้นสักที?

ก็ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าปีกว่าจะถึงจุดนี้ได้ แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าฉันต้องเป็นนักร้องดัง

เราแค่ต้องการไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ต้องการเป็นแค่เสาหลักให้ทุกคนแค่นั้นเอง

ท้อที่สุดในชีวิต ท้อเรื่องอะไรมากที่สุด?

น่าจะเป็นเรื่องครอบครัวค่ะ

ผ่านวงแรกมาแล้ว วงไหมไทย วงที่สองคือวงอะไร?

อยู่กับคุณพ่อไหมไทย รู้สึกว่าไม่สร้างชื่อเท่าไหร่ แต่ที่มีคนรู้จักเยอะๆ คือวงคำขุนร่วมมิตร รำเรื่องรักข้ามโขง

ตอนนั้นเป็นนางร้าย ตัวโกง ดังมากในโลกหมอลำ ทุกคนอยากมาดูเรื่องนี้ อยากติดตาม ว่าใครคือใหม่ พัชรี อยู่ปีนึง

ก็รู้สึกว่าอยากหาประสบการณ์ให้ได้เยอะกว่านี้ ก็เลยย้ายมาอยู่วงประถมบันเทิงศิลป์ ประมาณ 3-4 ปีค่ะ

ตอนนี้ทำวงเอง ผู้หญิงเป็นหัวหน้าวงน้อยมากนะ?

ไม่ค่อยมีค่ะ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ เราเจอผู้จัดการเขาเป็นทุกอย่างให้เราเลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูล: Orange Mama