กยศ. ประกาศเอาจริง ล่าสุดโดนแล้ว 40 ราย

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ทางเพจ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ❗️กยศ. ย้ำการเบี้ยวจ่ายหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานโกงเจ้าหนี้❗️ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงความรับผิดเพิ่มเติมกรณีมีผู้ชักชวนผู้กู้ยืมเงิน กยศ. เบี้ยวจ่ายหนี้และโอนทรัพย์สินหนีการบังคับคดี

อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ฐานโกงเจ้าหนี้ และความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย  ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ

ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ย้ำเตือนว่า “ตามที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อ้างตัวเป็นผู้กู้ยืมเงิน กยศ. โพสต์รีวิวการบิดหนี้ กยศ.

โดยชักชวนผู้กู้ยืมเงิน ไม่ให้ชำระหนี้คืนและโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับคดีนั้น กยศ. ขอย้ำเตือนว่าการเบี้ยวหนี้โดยโอนทรัพย์สินไปให้ผู้อื่นโดยมีเจตนาไม่ให้กยศ.

ได้รับชำระหนี้นั้น นอกจาก กยศ. จะสามารถยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 แล้ว

ผู้กู้ยืมเงินยังอาจมีความรับผิดทางอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350

ซึ่งกำหนดว่า “ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย

ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท

หรือทั้งจำทั้งปรับ” นอกจากนี้ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือให้ความสะดวกในการกระทำความผิดย่อมเข้าข่ายผู้สนับสนุนซึ่งจะมีความผิดและได้รับโทษทางอาญาเช่นกัน

โดยที่ผ่านมามีผู้กู้ยืมเงินได้ดำเนินการดังกล่าว ซึ่ง กยศ. ได้มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ไปแล้วกว่า 40 ราย

กยศ. ขอย้ำว่า กยศ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีวัตถุประสงค์ในการให้โอกาสทางการศึกษาและประชาชนผู้ขาดแคลนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

เงินทุกบาทที่ผู้กู้ยืมเงินนำมาชำระหนี้จะส่งต่อถึงนักเรียนนักศึกษารุ่นต่อไปเพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ผู้กู้ยืมเงินมีจิตสำนึกในการชำระหนี้คืนในทันที

ที่มีโอกาส เพื่อให้เงินทุกบาทตกทอดแก่นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อไป ซึ่งอาจเป็นบุตรหลานหรือญาติพี่น้องของท่าน” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด

ขอบคุณข้อมูล: กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา