เป็นประเด็นที่สังคมต่างออกมาถกเถียงและพูดถึงกันสนั่นโซเชียล จากกรณีการเสียชีวิตของนักร้องสาว ผิง ชญาดา พร้าวหอม หรือ ผิง อายุ 20 ปี หลังจากมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จนกระทั่งได้ไปนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่งโดยมีการนวดบิดคอแล้วทำให้กระดูกคอเคลื่อน
ทำให้ป่วยติดเตียงและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2567 ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี
ระบุผลชันสูตร พบว่า น.ส.ชญาดา เสียชีวิตเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และมีเชื้อราร่วมด้วย โดยไม่ยืนยันว่าเกิดจากการนวด
ล่าสุด นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัด
ได้ออกมาวิเคราะห์เคส ของ ผิง ถึงสาเหตุว่า “จากอาการของน้อง น่าจะเกิดจากการนวดท่าบิดคอ แล้วผิดท่า กระดูกคอเคลื่อน
แล้วเกิดการเลือดออกของเส้นเลือดดำ หรือเกิดการอักเสบ นำไปสู่การกดทับเส้นประสาท และลามไปถึงไขสันหลัง จึงมีอาการชาอ่อนแรง
แล้วอาจไปโดนเส้นประสาทที่ควบคุมกระบังลมของเขา ทำให้ปอดข้างขวาทำงานไม่ได้ น้องอยู่โรงพยาบาลนาน เป็นผู้ป่วยติดเตียง
มีโอกาสสำลักสูง พอสำลักแล้วเศษอาหารเข้าไปที่ปอดข้างขวาได้ง่าย เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด บางคนสู้ไม่ไหว สุดท้ายเสียชีวิต”
ส่วนที่บางคนมองว่ามาจากหลอดเลือดเส้นเลือดแดงที่คอฉีกขาดจากการนวดได้หรือไม่ ถ้าเราดูไทม์ไลน์ของน้อง ตั้งแต่แรกจนเข้า รพ. นานเป็นเดือน
ดังนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าเกิดขึ้น น่าจะมีอาการเกิดที่วันนั้นเลย หรือผ่านไปไม่กี่วันก็รุนแรงแล้ว ไม่ใช่ดำเนินการแบบนี้นานเป็นเดือน
ซึ่งในเฟซบุ๊ก Phumnarong Wongkong แฟนหนุ่มของ ผิง ชญาดา ได้นำลิงก์ยูทูบดังกล่าวแชร์ลงหน้าฟีดด้วย พร้อมข้อความระบุว่า “ผมอยากให้ทุกคนลองฟังคลิปนี้ดูครับ
ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากการนวด นำไปสู่ติดเชื้อในกระแสเลือดและทำให้น้องเสียชีวิตได้อย่างไร คุณหมอท่านนี้อธิบายได้ละเอียดและตรงทุกอย่างเกี่ยวกับอาการผิงที่เกิดขึ้นครับ ขอบคุณคุณหมอท่านนี้มากๆครับ”
ขอบคุณข้อมูล: Phumnarong Wongkong,Doctor Tany
