เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆ คนติดตาม หลังโดนจับกุมในคดียักยอกทรัพย์ ยักยอกเพชรของผู้เสียหายไป โดยเชฟรายนี้เคยมีประเด็นเรื่องการขายแฟรนไชส์มาก่อน และอีกคนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ไม่ใช่ใครอื่นไกล คือ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ที่หลังจบรายการโหนกระแสในครั้งนั้น
เชฟดังมาว่าจ้างให้ทนายไพศาลทำคดีให้ ในสัญญา 2 คดี แต่ที่ทำจริงคือ 10 คดี และสิ้นสุดไปหมดแล้วทุกคดี แต่เชฟยังจ่ายค่าว่าความไม่ครบ ที่สำคัญคือ ได้รับทราบจากผู้เสียหายคนอื่นๆ ว่า เชฟดังเอาชื่อของทนายไพศาลไปแอบอ้าง
ว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ และถ้ามีปัญหาอะไร ให้บอกได้เลย จะให้ทนายไพศาลไปจัดการ ทั้งนี้มีผู้ร่วมรายการในครั้งนี้ได้แก่ เจ๊แมน และ เล้ง ผู้เสียหาย บอกว่า ตั้งแต่ออกรายการครั้งที่แล้ว แทบจะพูดได้ว่า สิ้นศรัทธากับทนายไพศาล
เพราะตอนออกรายการ บอกว่ามานั่งเป็นทนายคนกลาง แต่พอจบรายการ ไปเป็นทนายให้เชฟชื่อดัง มีการไปจดทะเบียนบริษัทกับเขา แต่ก็ยกเลิกการจดทะเบียนไปในเวลาต่อมา จนทำให้หลายคนมองว่า
ทนายไปเข้าข้างเชฟดังคนนี้ แล้วผู้เสียหายจะทำยังไง เช่นเดียวกับเชฟปู ซึ่งอยู่ร่วมในหลายเหตุการณ์หลังออกรายการบอกว่า ทนายไพศาล รับประกันฝีมือการทำอาหารของเชฟ แล้วบอกว่า ต้องทำเป็นบริษัท
แล้วเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เป็นจริงเป็นจัง จะได้ทำให้มันถูกต้อง และสร้างมูลค่าจากฝีมือเชฟ จนทำให้ตนมั่นใจว่าเราอยู่ในฝั่งที่ถูกต้องแล้ว ด้านทนายไพศาลบอกว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเป็นทนาย ทั้งฝ่ายโจทก์ หรือฝ่ายจำเลย
มันไม่ใช่การฟอกดำเป็นขาว แต่มันเป็นการทำให้คดีมันได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ในฐานะที่เราเป็นทนายจำเลย ก็เพื่อไม่ให้เขาทำความผิดรุนแรงขึ้น และตนก็ได้ประสานงานกับผู้เสียหาย รวบรวมรายชื่อว่ามีใครบ้าง
เพื่อจะดำเนินการเยียวยา หรือจะสู้คดีกันก็แล้วแต่ทางเชฟดังจะจัดการ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นั่งพูดคุยกัน ผู้เสียหายทุกคนไล่เรียงเหตุการณ์ในตอนนั้น ระบายความอัดอั้นตันใจที่มีต่อทนายไพศาล
จนทำให้ทนายถึงบอกว่า “เอาxมาฆ่าชัดๆ” ก่อนจะมีช่วงหนึ่งที่ ทนายไพศาล พูดย้ำๆ กลางรายการด้วยว่า ตอนนี้จะเปลี่ยนจากเพจ ทนายไพศาลช่วยด้วย เป็น ช่วยทนายไพศาลด้วย
ขอบคุณข้อมูล: โหนกระแส