ถอดบทเรียน ! นักวิชาการ เผยสาเหตุน้ำท่วมเชียงราย หนักสุดรอบ 40 ปี

เรียกได้ว่ายังคงหน้าเป็นห่วง สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย โดย อ.สนธิ นักวิชาการเผยสาเหตุน้ำท่วมเชียงรายหนักสุดรอบ 40 ปี พร้อมถอดบทเรียนราคาแพง บอกถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไข ทั้งเรื่องการแจ้งเตือน และแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน

“สาเหตุที่น้ำท่วมหนักที่อำเภอแม่สายและ ท่าขี้เหล็ก ..พายุยางิอ่อนกำลังลง ทำให้เกิดกลุ่มเมฆฝนหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมพื้นที่รวมทั้งมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาว

ขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะ เลอันดามันพัดเอาความชื้นและพามวลอา กาศเย็นเข้ามาปะทะ ทำให้เกิดฝนตกหนักที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน โดยเฉพาะที่อ.แม่สายและอ.เชียงแสน น้ำท่วมหนัก

น้ำไหลลงม. แม่สายและม.รวกไหลงแม่น้ำโขงที่ต.สบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แต่แม่น้ำโขงเต็มตลิ่งและฝนตกหนักจึงทำให้เกิดน้ำท่วมหนักมากทั้งที่อ.แม่สายและอ.เชียงแสน คาดว่าช่วงวันที่14ถึง16 กันยายน 67พื้นที่ดังกล่าวจะมีฝนตกหนักถึง 80%”

นอกจากนี้ อ.สนธิ ยังแนะด้วยว่า เหตุการณ์ที่แม่สาย และแม่อาย เป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องได้รับการแก้ไข เนื่องจาก

1.ฝนตกหนักมากจากอิทธิพลของพายุยางิขณะที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายน้ำท่วมหนักเสียหายมากที่ สุดในรอบ40ปีมากกว่าปี 65 และที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่เกิดดินถล่มจากภูเขาทับบ้านเรือนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน

2.บทเรียนราคาแพงที่ทำให้เกิด วิปโยคที่แม่สายและแม่อายสะอื้นในครั้งนี้คืออะไร

2.1.ขาดแผนการเตือนภัยที่ชัดเจน กรมอุ ตุนิยมวิทยาและ สทนช.ได้แจ้งเตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายในช่วงวันที่ 8 ถึงวันที่ 13 กันยายนจะเกิดน้ำท่วมไหลหลากและดินถล่มแต่การเตือนภัยดังกล่าวอาจลงไปไม่ถึงประชาชน

ในระดับรากหญ้าและการเตือนภัยดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนทั้งยังไม่ได้ระบุถึงสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงว่าน้ำจะท่วมหนักเกิดขึ้นที่ ไหนบ้าง? บอกแต่เพียงกว้างๆว่าจะเกิดที่จ.เชียงรายและจ.เชียงใหม่ เป็นต้น ทำให้ประชาชนที่ได้รับข่าวสารในพื้นที่ไม่สนใจเท่าที่ควรเพราะทุกปีน้ำก็ท่วมประจำอยู่แล้วไม่ได้หนักหนาอะไร

2.2. ขาดการสื่อสารความเสี่ยงที่ให้ประ ชาชนเกิดความตระหนัก ที่ผ่านมาใช้ช่องสื่อสารทางทีวี วิทยุ เฟชบุ๊คโดยใช้ภาษาทางวิชาการที่ยากจะเข้าใจทำให้ประชา ชนระดับรากหญ้าไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร

การสื่อสารหลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าน้ำจะท่วมอย่างรุนแรงที่ไหนบ้าง ควรให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรืออปท.สื่อสารถึงตัวประชาชนโดยตรงโดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าสถานการณ์จะเกิดรุนแรงในระดับใด ที่ไหน จะต้องเก็บข้าวของขึ้นที่สูงหรือต้องอพยพออกมาและไปพักที่จุดใดบ้าง เป็นต้น

โดยทั่วไปผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอต้องเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์หรือเป็น commanderสั่งการให้ดำเนินการทัน ที..ยิ่งในต่างประเทศจะมีการใช้ระบบ sms สื่อสารเตือนภัยโดยส่งเข้าไปในระบบโทร ศัพท์มือถือของที่คนที่อาศัยในพื้นที่โดยตรงเป็นต้น

แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้การเตรียมความพร้อมและยังไม่มีมาตร การป้องกันวิกฤติดังกล่าวเลย ต้องรอให้เกิดวิกฤติก่อนจึงจะประกาศให้พื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อนำงบประมาณออกมาแก้ไขและเยียวยาได้ดังนั้นตามกฎหมายจึงมีแต่เพียงมาตรการบรรเทาทุกข์แต่ไม่มีมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้า

2.3.ขาดแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมดินถล่มราชการจะต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพื่อนำงบประมาณออกมาใช้บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนได้ ซึ่งทำได้ล่าช้ามากเนื่องจากติดที่ระบบราช การต้องมีหนังสือเป็นทางการส่งออกไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ทำอะไรที่ไหนอย่างไร?ต้องมีเวลาในการการเตรียม อุปกรณ์และกำลังคน

กรณีน้ำท่วมที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียง ราย ประชาชนจำนวนมากติดอยู่บนหลัง คาและติดอยู่อยู่ในบ้านเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2วันโดยหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของมูล นิธิ,จิตรอาสา, สมาคมและภาคประชาสังคม ส่วนหน่วยราชการยังล่าช้าอยู่เพราะติดระบบราชการยกเว้นหน่วยทหารที่สั่งการและออกปฎิบัติงานได้ทันที…

ขอบคุณข้อมูล: Sonthi Kotchawat