คู่รักคนดัง ย้อนเล่าเหตุการณ์ หวิดบ้านแตก ทะเลาะกันทั้งชีวิตเพราะเรื่องนี้

ต้องบอกเลยว่าเป็นคู่ที่ครองรักด้วยกันมาอย่างยาวนาน สำหรับหนุ่ม ภูริ หิรัญพฤกษ์ และภรรยา แอน อลิชา ที่ล่าสุด ทั้งสองได้ออกมาเปิดใจย้อนเหตุการณ์เกือบบ้านแตกเพราะความสัมพันธ์กับแฟนเก่า ผ่านทางรายการ Club Friday Show ว่า

มีความประมาทพลาดพลั้งเกิดขึ้น?

ภูริ : ก็คือจริงๆ มันเหมือนโทรศัพท์ลั่น เหมือนผมมีความสัมพันธ์กับแฟนเก่าอยู่อะไรอย่างนี้ เหมือนห่างกันไปแล้วก็เหมือนกลับมาคบกัน

แอน : พูดดูดีมากเลยค่ะ เล่าสั้นๆ แบบนี้ไม่สนุกเลย คนบันเทิงไม่ชอบ เดี๋ยวเขาเปลี่ยนช่องเลย

ไม่ๆ ตอนนั้นก็คือตัดใจจากรักครั้งก่อนไม่ได้ ตอนกลางคืนอยู่ๆ ก็มีโทรศัพท์มา แล้วก็ไม่นะ

ผมไม่ได้รักเขา ผมรักคุณ เราก็ทนฟังไป เอายังไงดี เราจะพูดให้เขารู้ตัวไหม เราก็ฟังจนจบ

ภูริ : ผมจำไม่ได้นะครับ พี่ฉอด

แอน : เรื่องนี้เขาจำไม่ได้ เขาลืม

แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ดูทั้งคู่ห่างๆ กัน?

ภูริ : เลิกครับ

แอนเขาเป็นคนดุไหม?

ภูริ : คือเขาเป็นคนพูดตรง ซึ่งอันนี้เพื่อนๆ ทุกคนรับทราบ กลับบ้านได้แล้วพวกแก คือแบบไล่เพื่อนผมได้แบบชัดเจน

แม้กระทั่งงานแต่งงาน ผมจัดปาร์ตี้อยู่ที่เกาะตอนตี 2 ทุกคนกำลังแบบเต็มที่เต็มเหวี่ยง เจ้าสาวบอกขึ้นเรือเดี๋ยวนี้ ออกจากเกาะฉันไปให้หมด

เป็นผู้หญิงขี้หึง?

แอน : ไม่ใช่ค่ะ แต่ขี้บ่น

ภูริ : เขาสามารถบ่นได้ทุกเรื่องครับผม หลอดยาสีฟันไม่ปิด บ่นยันเพื่อนลูก

มีครั้งหนึ่งในชีวิตที่แอนเองค่อนข้างตกใจ การเดินเข้ามาในบ้าน ไม่เคยเห็นภูริในรูปแบบนี้มาก่อน ตอนนั้นเกิดภาวะ Burnout เลย?

ภูริ : ผมเครียดช่วงที่โควิดมาใหม่ๆ ทุกอย่างมันมาประดังที่เรา เราต้องเป็นคนที่รับผิดชอบหมดทุกอย่าง

เหนื่อยใจ เหนื่อยกาย ไม่อยากทำอะไร ชีวิตมันเบื่อๆ ไม่อยากทำอะไร

แอน : วันนั้นเหมือนมีก็ทะเลาะเรื่องอะไรสักอย่างอยู่ๆ ก็พูดออกมาว่าแบบผมไม่ไหวแล้วนะ แอน ผมเหนื่อยมาก แล้วเขาก็เหมือนกับ breakdown

คะแนนความเป็นคุณแม่เต็มร้อย แต่ก็มีปรึกษาเพื่อนเหมือนกันว่าคะแนนความเป็นภรรยานั้นอาจจะมีย่อหย่อนไปบ้าง ปรึกษาใครมาเอ่ย?

แอน : อันนี้ไม่ได้ปรึกษาแต่โดนด่าเลย พอเราเป็นมนุษย์แม่มาสักพัก เราก็ไม่ได้ไปเจอใคร

แค่โรงเรียนเจอแม่ๆ เราก็ไม่ได้ดูแลตัวเอง ปล่อยตัวเองเยอะเหมือนกัน คุณนานา คุณเจน

ก็แบบไม่ได้นะ ต้องสวย ผมหงอกก็ต้องไม่มี ตีนกาห้ามแบบโน้นนี่ ก็จะว่าเราค่ะ

ก็คือเป็นการบอกว่าให้เราดูแลตัวเองบ้าง อย่างน้อยเขากลับมาบ้าน เขาเห็นอะไรที่ชื่นใจ

เขาจะยังไม่ไปไหน อย่ามั่นใจให้มาก เราต้องทำการบ้านบ้าง เราต้องทำอะไรบ้าง มันก็ต้องยังมีอยู่ เราก็แบบละเลยไปเลยเรื่องพวกนี้

ทุกครั้งที่มีเสียงสตาร์ต หัวใจของแอนจะรู้สึกว่ามันช่างเป็นห่วงจริงๆ เลย?

แอน : เป็นห่วงค่ะพี่ เราพูดเรื่องนี้กันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วมันก็ยังไม่หายไปจากชีวิตเขา

รู้ว่าวันนี้เป็นทริปมอเตอร์ไซค์เขา เราก็จะหายใจไม่ทั่วท้องค่ะ ทุกครั้งที่แอนรับโทรศัพท์จะเป็นแบบฮึบก่อนทีนึง

แล้วถามว่าโอเคใช่ไหม เหมือนถ้าเขาแบบเป็นอะไรไป แอนคงทำใจไม่ได้

การที่เราออกไปทริปเที่ยวถ่ายงานหรืออะไรก็ตาม มันเหมือนกับเราได้มีความสุขในการเป็นส่วนตัวของเราเหมือนกัน?

ภูริ : ใช่ครับ อันนี้ผมก็บอกเขาแล้วก็บอกกับทุกคนนะครับว่า ถึงบริษัทนี้จะขาดทุน

แต่คอนเทนต์นี้เราเลิกไม่ได้ เพราะมันบำบัดจิตใจเราอยู่ เวลาที่เราเข้ามาอยู่บ้าน

เราจะเจออะไรที่มันสภาพอีกแบบหนึ่ง อันนี้เหมือนเราได้หนีออกมาได้ทำอะไรที่เป็น Passion เรา

แอบน้อยใจไหมเอ่ย?

ภูริ : ก็นิดหน่อยนะครับ บางทีเรากลับมา เขาเหมือนไม่ห่วงไม่สนใจเราเลย เราเหนื่อยมาก เรากลับมาบ้าน

แล้วเราอยากจะได้ภรรยามาดูแลแค่ว่าสั่งอาหารให้กิน กินอะไรหรือยัง บางช่วงที่เขาโฟกัสกับลูก ตรงนี้ของเรามันหายไปเลย

แอน : ก็กลับมาอีกว่าแค่อยากได้อะไร ขอให้บอกแค่นั้นเอง

แล้วถ้าสมมติว่าเขาสั่งให้ แค่นี้โอเคไหม?

ภูริ : แค่แสดงความตั้งใจว่าจะสั่งแค่นี้เราก็โอเคแล้ว ผมก็จะบอกเขาว่าไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมสั่งเอง

แอน : แบบนี้เขาก็พูดไงคะ แค่พูด แค่โทรมา คุณแอน ผมกำลังจะถึงบ้าน เตรียมของไว้ให้หน่อย จบ อะไรอย่างนี้ แต่ไม่พูดไง

ภูริ : เป็นปัญหาที่เราไม่ค่อยคุยกันเรื่องรายละเอียดพวกนี้

ขอบคุณข้อมูล: CHANGE2561