เท้ง ณัฐพงษ์ ย้ำจุดยืน พรรคประชาชน โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31

เรียกได้ว่าวันนี้ที่รัฐสภา ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ ส.ส. พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวเรื่องจุดยืนพรรคประชาชนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่คาดว่า จะเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ 16 สิงหาคม

โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอยืนยันอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองของพรรคประชาชน ยังคงมั่นคงเหมือนเดิมที่เราเคยให้ไว้กับพี่น้องประชาชน เมื่อ 1 ปีที่แล้ว รัฐสภามีการพิจารณาให้ความเห็นชอบ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

ซึ่งเราเคยสื่อสารกับพี่น้องประชาชนในฐานะอดีตพรรคก้าวไกล ว่าเราไม่เชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานของพรรคการเมืองที่มีความเชื่อและอุดมการณ์ต่างขั้ว จะสามารถผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้

จากการประเมินการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาตลอด 1 ปี ทั้งในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงการยกระดับประชาธิปไตย พวกเรายังคงยืนยันคำเดิม แม้วันนี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนคน

แต่จากข่าวที่ปรากฏ พรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมมีความประสงค์จะเดินหน้าเป็นรัฐบาลร่วมกันต่อ โดยการร่วมกันเสนอชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ที่มีจำนวน ส.ส. มากที่สุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน เศรษฐา ทวีสิน

ดังนั้น พรรคประชาชนขอยืนยันว่า เราจะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านโดยไม่มีส่วนในการโหวตสนับสนุน ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต้องร่วมกันเสนอชื่อและคาดว่าได้มีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า แม้พรรคประชาชนไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ในนามของตนเองได้ แต่ตนมีความพร้อมเข้ามาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยเราต้องการผลักดันอีกหลายเรื่อง ที่ไม่เพียงแต่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

แต่จะเดินหน้าใช้กลไกสภาฯ อย่างเต็มที่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อจากนี้ ทางพรรคประชาชนขอยืนยันเช่นกัน ว่า แม้เราจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่เรายังมีอีกหลายภารกิจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองในระบอบประชาธิปไตย มีอีกหลายวาระที่เราจำเป็นต้องผลักดันร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ตัวอย่างสำคัญของวาระดังกล่าว

ซึ่งถูกตอกย้ำให้สังคมเห็นได้ชัดขึ้นตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าที่และโครงสร้างของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ทบทวนเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมให้เป็นเรื่องของความรับผิดรับชอบทางการเมือง

ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่กลุ่มคนเพียงไม่กี่คนเป็นผู้ตัดสิน ทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรคให้สอดคล้องกับหลักสากล ซึ่งสามารถดำเนินการได้คู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด

ดังนั้นหลังจากนี้ ทางพรรคประชาชนจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวผ่านกลไกรัฐสภา และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะร่วมมือกับเราในภารกิจดังกล่าว เพื่อทวงคืนอำนาจสูงสุดที่เป็นของพี่น้องประชาชนทุกคน

ขอบคุณข้อมูล: โสภน สุเสนา NationPhoto