จอนนี่ มือปราบ วิเคราะห์อีกมุม คดีอดีตผกก.โจ้

จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติด ล่าสุด ทางด้าน จอนนี่ มือปราบ หรือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ อินฟูเอนเซอร์สายตำรวจคนดัง

ได้ออกมาร่ายยาวเล่าอีกมุมว่า “ตั้งแต่คดีผู้กำกับโจ้ผ่านมา3ปี มีสื่อต่างๆอยากสัมภาษณ์ผมอยากได้ยินจากปากผม ถึงประเด็นคดีตำรวจนครสวรรค์

ที่เป็นข่าวดังในเวลานั้น จนถึงเวลานี้ กันเป็นจำนวนมาก ในฐานะที่เขามองว่า ผมคือตำรวจชื่อดัง ที่อยากได้ยินและให้วิเคราะห์ มาวันนี้ ผู้กำกับโจ้ ได้เสียชีวิตไป ตามที่เป็นข่าว

ที่กำลังถกเถียงกันมามากมายวันนี้ ผมขอมาเอ่ย มาพูดถึงในคดีนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่เป็นข่าว ให้ทุกๆท่านได้อ่าน จากมุมมองความคิดของผม

ก่อนอื่น ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเหยื่อที่ถูกกระทำของผู้กำกับโจ้ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้กำกับโจ้ ที่เสียชีวิตเช่นกัน

คดีนี้ จุดเริ่มต้น ผมขอถอดบทเรียน ในพฤติการณ์วันเกิดเหตุ เพื่อให้ตำรวจรุ่นน้อง เพื้อเป็นกรณีศึกษา คือ การกระทำต่อผู้ต้องหาวันนั้น ผมมองว่า ผู้กำกับโจ้แกอาจขาดสติ

ขาดการยับยั้งชั่งใจ ขาดการวางแผนการณ์ในยุทธวิธีที่ถูกต้อง ผมมองว่าแกพลาด พลาดตั้งแต่วิธีคิด มากกว่าเจตนาที่แกจะกระทำ เจตนาแกคือจะขยายผล ไม่ใช่ต้องการฆ่า

แต่วิธีการที่ผิดพลาด จึงนำไปสู่การตาย หนึ่งคือ แกกระทำด้วยขาดการดำเนินการตามวิธีการขยายผลที่ถูกต้องตามหลักของนักสืบ

คือ การที่จะเอาถุงดำครอบหัว เพื่อบังคับให้ผู้ต้องหาคายความลับ เค้นหาคำตอบ มันผิดหลักและวิธีการอย่างยิ่ง

ผู้ต้องหาจะไม่สามารถตอบโต้กับเราได้เลย ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการในเวลานั้น แกก็เพียงเพื่ออยากหาความจริง และขยายผล

แต่วิธีการมันผิดหลักเป็นอย่างมาก ผมผ่านงานสืบกับปรมาจารย์นักสืบมามากมาย ผ่านการขยายผล มือปืน ยาเสพติด คดีปล้น ฆ่า

และเรียนรู้วิธีการกับนักสืบเก่งๆ รุ่นเก่าๆ เขาไม่เคยพาผมทำในลักษณะนี้ สุดท้าย การกระทำในลักษณะนี้ จะส่งผลต่อผู้ต้องหา ขาดอากาศหายใจ

สอง การกระทำ ที่ขาดการตรวจสอบสภาพแวดล้อม ในห้องปฏิบัติการ จนมีผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และผู้นำกล้องวงจรปิด มาเผยแพร่

ถือว่า การทำงานด้านงานสืบสวน ไม่มีความระเอียด จนนำสู่หลักฐาน มัดตัวตนเอง แกอาจจะกระทำไปด้วยความพลั้งเผลอ ขาดความยั้งคิด

คงด้วยความเป็นหัวหน้าหน่วย อยากแสดงถึงความเป็นผู้นำ ถึงได้กระทำในห้วงวินาทีที่มันผิดพลาดหลายขั้นตอน หากพูดแบบบ้านๆ คือคราวซวยจะเกิดกับแกด้วยละ เลยพลาดไปหมด

วันนี้ ผู้กำกับโจ้ แกได้เสียชีวิตไป ผมมองว่าคงเป็นไปด้วยเรื่อง สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม ชีวิต คืน ชีวิต บางคนนำคลิปมาปล่อย

เพื่อให้เป็นข่าว เพื่อทำลายหลายชีวิต ให้ตนเองมีชื่อเสียง ตอนนี้ ก็ไปติดคุกอีก นี่คือ เวรกรรม แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่ผู้กำกับโจ้ทิ้งไว้ให้ผมชื่นชม

ของคำว่าเจ้านายคน คือ วันที่แกถูกจับกุมตัว นำมาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนั้น ผมจดจำได้ดี ผบ.ตร ได้สัมภาษณ์แก ด้วยการโฟนอินเข้ามา ในโต๊ะแถลงข่าว

แกพูดด้วยคำพูดของลูกผู้ชาย ในฐานะผู้นำคือ “”ความผิดทั้งหมด ลูกน้องผมทุกคนไม่เกี่ยวข้อง ผมรับผิดคนเดียว ผมทำคนเดียว

สิ่งที่ผมทำ ผมอยากขยายผล เพื่อหาแหล่งส่งยา เพื่ออยากให้ยาในจังหวัดนครสวรรค์หมดไป “”นี่คือคำพูดของลูกผู้ชาย ผิดแกรับผิด และปกป้องลูกน้อง

ที่ในยุคนี้ หายากยิ่งกับลูกพี่แบบนี้ ที่กล้าจะมารับผิดช่วยลูกน้อง ปกป้องลูกน้องของตนเอง จนวันสิ้นอิสระภาพ และจนมาหมดลมหายใจ Rip ครับผู้กำกับโจ้

สติ ความยับยั้งชั่งใจ การคิด การวางแผน การใส่ใจในรายระเอียดของงานสืบสวน ตำรวจที่ยังอยู่ จงนำมาถอดบทเรียน

ไม่มีใครอยากให้ผิดพลาดแน่นอน ด้วยรักและอาลัยครับ ผกก.โจ้ ในฐานะเราคือตำรวจด้วยกัน จอนนี่มือปราบ”

ขอบคุณข้อมูล: ตะลึงกรุง จอนนี่มือปราบ