ย้อนคำพิพากษา ก่อนอดีตผู้กำกับโจ้ จบชีวิตในห้องขังเรือนจำ

กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางคลองเปรมว่ามีเหตุผู้ต้องขังจบชีวิตภายในเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 20.50 วันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามรายงานผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 43 ปี หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์

ผู้ต้องขังในคดีร่วมกับพวกอีก 6 คน ใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนถึงแก่ความตาย ซึ่งในคืนวันที่ 7 มี.ค.เมื่อเวลา 20.25 น.

เจ้าพนักงานเวรรักษาการณ์  ขณะกำลังเดินไปจ่ายยาประจำตัวให้กับ ข.ช.ธิติสรรค์ พบว่า ผู้ต้องขังนั่งหลังพิงกับประตูห้องขัง

จึงได้พยายามเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งพัศดีเวรฯ และพยาบาลเวรฯ เข้าเปิดห้องขังเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ตามหลักวิชาชีพ

แต่พบว่า ผู้ต้องขังใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก   ไม่รู้สึกตัว ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ

ไม่พบชีพจรบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ในเบื้องต้น เรือนจำฯ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าทางเดิน ของห้องขังผู้ต้องขังดังกล่าว

ซึ่งไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมทั้งแจ้งพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ แพทย์

เจ้าพนักงานปกครอง เพื่อดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมทั้งจะได้เชิญญาติเพื่อรับทราบต่อไป.

ซึ่งหากย้อนไปในวันที่ 8 มิ.ย.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาประหารชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล

อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ และจำเลยอีก 5 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากมีการเยียวยาให้พ่อ-แม่ของผู้เสียชีวิตคนละ 3 แสนบาท

รวม 6 แสนบาท กรณีใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงษ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ถึงแก่ความตาย