ส้มเช้ง เคลียร์ดราม่าอาหารแพง-ให้น้อย ทำท้อหนัก

กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ทำเอา ส้มเช้ง สามช่า ถึงกับเครียดไม่น้อย เมื่อเธอถูกชาวเน็ตแซะเรื่องร้านอาหารว่ามีราคาแพง ให้น้อยเหมือนไหว้เจ้าที่ จนทำให้เจ้าตัวคิดปิดกิจการ ล่าสุด ส้มเช้ง ได้มาเปิดในเรื่องนี้ในรายการคุยแซ่บ Show ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า

จุดเริ่มต้นของดราม่ามายังไง ?

ส้มเช้ง : มาจากคลิปคลิปนึง ซึ่งปกติเราอยู่ที่ร้าน เราจะกินก๋วยเตี๋ยวทุกวัน ทุกครั้งที่เราสั่งก๋วยเตี๋ยวมา น้องจะทำให้ในปริมาณที่มันเยอะมาก

แล้วเราต้องฝืนกินให้หมด แล้ววันนั้นเราก็บอกว่าไม่อยากกินแล้ว เพราะกินแล้วมันจะอ้วก คือมันเยอะสำหรับเรา เราอายุเยอะแล้วกินแป้งน้อย

คือน้องที่ร้านทำตามปริมาณที่ขาย แต่พี่ส้มบอกฉันขอลดเส้นหน่อย?

ส้มเช้ง : ถูก ลุกไปทำเอง ซึ่งคลิปนั้นบอกว่าวันนี้ส้มเช้งสามช่า ขอเข้าครัวทำผัดไทยกินหน่อย ทำกินเอง ชิมเอง แล้วก็ผัดใส่เส้นน้อย ทุกอย่างน้อย เอาที่เราชอบ แค่นั้นแหละค่ะ

ก็เป็นดราม่าเลย คือมันไม่สมดุลกับราคา คือทำทานเอง ไม่ได้ทำให้ลูกค้าทาน?

ส้มเช้ง : ใช่

ผัดไทยจานเท่าไหร่?

ส้มเช้ง : เริ่มต้น 69 บาท เราพยายามบอกบ่อยๆ ร้านเราสไตล์ร้านอาหาร ไม่ใช่ร้านก๋วยเตี๋ยวแบบข้างทาง เป็นร้านที่วิวหลักล้าน

อาหารหลักสิบ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เราต้องการขายคุณภาพและความอร่อย ซึ่งผัดไทยถ้าคนปกติทั่วไปกิน จะบอกว่าอิ่ม

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่ขาย เส้นมาก เส้นน้อย บอกได้เลย เพิ่มเส้น เพิ่มผักไม่มีคิดตังค์เพิ่ม

วันนั้นที่ถ่ายคลิปเราได้บอกไหมว่าเราทำกินเอง?

ส้มเช้ง : เราพูดว่าเราทำผัดไทยกินเอง แล้วภาพที่เรานั่งกินแล้วตัดไป คนก็มาคอมเมนต์ว่าน้อยจังเลย ที่เรารู้สึกเสียใจมาก

และนอยไม่อยากสู้แล้ว คือ อย่างนี้คือทำไหว้เจ้าที่เหรอค่ะ ต้องเคาะโลงช่วยไหม ซึ่งคุณไม่ได้ฟังเหรอ

เราบอกว่าเราทำกินเอง ไปที่ร้านเรามีแม่ครัว 2 คน พ่อครัว 2 คน มีทั้งหมด 4 คน

คอมเมนต์หนักๆ ที่ทำให้พี่ส้มโกรธมากคือ?

ส้มเช้ง : เคาะโลง คือมันแช่งให้เราตาย ตรงนี้มันทนไม่ได้ รับไม่ไหว หรือว่าพอ

พี่ส้มได้เข้าไปดูคนที่เข้ามาคอมเมนต์ไหม?

ส้มเช้ง : มีที่จำได้คือ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวตำลึง แล้วอีกอัน ที่ร้านผมให้เยอะกว่านี้ครับ ลูกค้ากินอิ่ม

และมีร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเราก็มองว่ามันเป็นอาชีพพ่อค้า แม่ค้าเหมือนกัน ทำไมคุณมาพิมพ์แบบนี้

น้องหยกให้กำลังใจคุณแม่ยังไง?

น้องหยก : จริงๆ หนูไม่ค่อยไปให้กำลังใจ แต่หนูไปเก็บฟีดแบคว่าเขาด่าอะไรบ้างที่ด่าแล้วเรารับได้เอาไปปรับปรุง

เลยมาคิดแผนกันหลังบ้านเราจะปรับปรุงพัฒนาร้านไปยังไงมากกว่า แต่พวกคอมเมนต์ที่ไม่หวังดี คอมเมนต์ที่มาเพื่อด่าจริงๆ ก็บอกแม่ปล่อยบ้าง เราก็ปล่อยกัน

คอมเมนต์ไม่ดีแค่ไม่กี่อันมันส่งผลให้ร้านได้รับผลกระทบโดยตรง?

ส้มเช้ง : เอาชัดๆ เลย ทันทีก็อยู่ประมาณ 4 วัน ที่ยอดมันลดลงทันทีเลย ถ้าเปรียบว่าเราขายได้ 100% มันหายไป 70% เลย

จริงๆ พี่ไม่ได้ว่าคนที่เล่นโซเชียลนะ บางทีคนที่คอมเมนต์อะไรต่อ ถ้าคุณมาทานแล้ว คุณเห็นแล้ว คุณชิมแล้ว

แล้วไปคอมเมนต์เรื่องรสชาติหรือว่าอะไร เราน้อมรับ เราขอโทษนะ เดี๋ยวเราเพิ่มให้ สงสัยคุณไม่รู้ว่าที่ร้าน เพิ่มเส้น เพิ่มผัก

โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่นี่เหมือนพอรถทัวร์มันจ่อกันอยู่ คนนี้คอมเมนต์ว่าน้อยนะ นี่ก็มาต่อว่าแพง

พอพี่มาเล่าแบบนี้คนก็จะมาว่าพี่อีก ว่าโทษแต่คนอื่นไม่โทษตัวเอง เราโทษตัวเอง และพยายามแก้ไข เราก็ถ่ายคลิปให้ดู ที่ร้านเป็นแบบนี้

คุณสามารถเพิ่มเส้น เพิ่มผักได้ เราไม่ได้คิดเงิน แม้กระทั่งน้ำที่เราใส่ขัน พี่พยายามสื่อถึงสุโขทัยที่เขาต้อนรับแขก

พี่ก็ใช้ขันและหลอด ก็มีคอมเมนต์บอกว่าทำไมไม่ใช้แก้ว ทำไมใช้ขันน้ำแข็งมันละลายเร็ว การตลาดหรือเปล่า

คือร้านเราเติมน้ำแข็งกี่รอบก็ได้เราไม่เคยคิดเงิน เราอยากให้บรรยากาศเป็นสุโขทัย

น้องหยกเห็นคลิปคุณแม่ลงไหม ?

น้องหยก : หนูมาเห็นทีหลังพอมันเริ่มเป็นข่าว ตอนนั้นหนูอยากให้คนตัดเน็ตที่บ้าน อยากให้แม่เลิกตอบคอมเมนต์

คือหนูอยากเถียงเรื่องตอบคอมเมนต์มาก ทุกคนต้องเข้าใจก่อนว่าแม่คือชะนีวัย 58 ปี เรื่องโซเชียลคือเขาไม่ได้พิมพ์เก่งเหมือนเรา

เขาจะพิมพ์ห้วนๆ แล้วเขาไม่ได้พิมพ์เองด้วย เขาพูดให้โทรศัพท์มันพิมพ์ คนมาบอกว่า คุณแม่ตอบคอมเมนต์แบบปากแจ๋วมาก คือเขาไม่ได้มีเจตนาปากแจ๋วใส่ลูกค้า เขาแค่แก่แล้ว

ส้มเช้ง : พอดีว่าเราไม่ใช่คนพูดเพราะ ไม่ใช่คนพูดห้วน เราเป็นคนกลางๆ คนนึง แล้วเป็นคนตรงคนนึง ถ้าไม่ชอบ เราก็บอกว่าไม่ชอบนะแบบนี้

ในมุมของลูก แม่ควรทำยังไงดีในเรื่องการตอบคอมเมนต์?

น้องหยก : เลิกตอบดีกว่า มันจะได้ไม่ต้องเสียสายตาด้วย บอกแม่ไปแล้วว่าไม่ต้องตอบ ถ้ามีอะไร เดี๋ยวให้แอดมินร้านเข้าไปตอบดีกว่า

ส้มเช้ง : เขาไปให้อารมณ์ในตัวหนังสือเอง เขาไปปรุงกันเอง

นอกจากออกมาชี้แจงแล้ว ยังลดราคาให้อีก?

ส้มเช้ง : วันนั้นพอเป็นกระแสปุ๊บ ลูกค้าเริ่มมา พอลูกคเฃ้ากลับมาปุ๊บ เราทำกระแสไปแล้ว ลดราคาเลย

ก๋วยเตี๋ยวจาก 59 บาท เหลือ 49 บาท ก็ขายเอาสังคม แต่จริงๆ มันมีกำไร ถ้าตรงนั้นไม่มีกำไร เราก็ไปเอากำไรอย่างอื่น

น้องหยก : เรามองแค่ว่าราคามันเหมาะสมกับปริมาณที่ไม่ได้ เพราะว่าร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้านขาย 40 แต่ต้นทุนเขามาถูกกว่าเรา

ก๋วยเตี๋ยวทั่วไปอาจจะมีลูกชิ้นหมู 3 ชิ้น แล้วก็ถั่วงอกแล้วก็เส้นอยู่ในจาน อาจจะดูให้เยอะกว่า แต่ร้านหนูอาจจะดูให้น้อย

แต่คุณต้องมานับว่าเครื่องในถ้วยมีกี่อัน มันมีต้นทุนแฝงอีกเยอะที่คนมองว่าแพงไว้ก่อน

ส้มเช้ง : ยกตัวอย่างร้านเพื่อนกันแต่อยู่ข้างถนน ค่าเช่าตีไปสัก 20,000 ร้านพี่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปตีความกันเองว่าค่าเช่าเท่าไหร่ เด็กทั้งหมดเลย 20 คน

อะไรที่ทำให้พี่ตัดสินใจลดราคา?

ส้มเช้ง : พี่เป็นคนละเอียดอ่อนกับที่เขาคอมเมนต์ บอกแพงใช่ไหม ลดราคาเลย ซึ่งวันนั้นพี่ประกาศในร้านเลย

เชื่อไหมลูกค้าน่ารักมาก คุณส้มไม่ต้องลดค่ะ โต๊ะพี่คิดราคา 59 บาท คือส้มไม่อยากให้มีสักคอมเมนต์ว่าก๋วยเตี๋ยวส้มแพง ส้มอยากให้ทุกคนเปิดใจมาลองชิมดูก่อน

พี่น้องในวงการมีใครบ้างที่ไปช่วยซัพพอร์ต?

ส้มเช้ง : วันแรก แก้ว มณีทรัพย์ วันที่2 จ๊ะ มา วันที่3 พี่เท่งกับโหน่งมา

น้องหยก : จริงๆ มีเยอะเลยค่ะ มีตลกรุ่นเก่าๆ ด้วย

ส้มเช้ง : บางคนก็มาคอมเมนต์ให้กำลังใจ เปิดตอนกี่โมง แล้วมีตลกมากันหลายคน

อย่างจ๊ะบอกว่าใครบอกก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ไม่อร่อย อร่อยมาก กิน 2 ชาม แล้วที่อร่อยที่สุด หนูไม่เคยกินเลยคือไส้ทอด

พอเกิดดราม่าก็จะมีคนมากินเพื่อพิสูจน์ มันมีฟีดแบ็กยังไงบ้าง?

ส้มเช้ง : อันดับแรกเลยพี่ถามว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง เขาบอกอร่อย พี่เดินหาลูกค้าทุกโต๊ะ ลูกค้า 10 โต๊ะ พี่เดิน 9 โต๊ะ พี่ถามทุกโต๊ะ

บางคนอาจจะตอบด้วยมารยาท อร่อยค่ะ แต่อันดับแรกพี่ต้องมองที่โต๊ะก่อน คือทุกอย่างเกลี้ยง แล้วลูกค้าตอบแบบน่ารักมาก

คุณรู้ไหมคุณส้มถ้าใบตองกินได้ ผมกินแล้ว น่ารักมาก พี่บอกเลยนะผัดไทยเป็นสูตรสุโขทัย ไม่ใช่อยู่ๆ มาขาย

นี่ขายมานับ 100 ปี ตอนนี้ร้านที่ขายอยู่ก็ยังขายอยู่สุโขทัย ไม่ใช่อยู่ๆ มาทำเลยนะ เรามีสูตรของเรา

ขอบคุณข้อมูล: Orange Mama